Dienstag, 18. Dezember 2007

Interview- Bayan Waigand

Bayan Weigand (กั้ง)
Scheffelstr. 10 a
97209 Veitshöchheim
Germany

Tel. 0931-960771
Fax. 0931-960771
E-mail; bayan@philaclassica.de
Homepage :
http://tshgwuerzburg.blogspot.com/

ประวัติโดยสังเขป

อดีต วิสัญญีพยาบาล ณ โรงพยาบาลชุมแพ และ Uniklinik Würzburg

ภารกิจปัจจุบัน

-ประธานกลุมไทยเพื่อการช่วยเหลือตนเอง ณ เมือง Würzburg( Selbsthilfegruppe für Thailändische Frauen)
-เป็นอาสาสมัครร่วมกับคณะอนุกรรมการชาวต่างชาติ รับปรึกษาปัญหาครอบครัวให้ชาวต่างชาติ
-นวดรักษากดจุดและให้คำปรึกษาทางด้านจิตวิทยาที่คลินิกนายแพทย์ฝังเข็ม Praxis Dr.Hans Hermann Büchxing เมือง Kürnach
- รองประธานกลุ่มธารา(www.thara-verein.de)
- ล่ามรับเชิญ ในโอกาสต่างๆ

ผลงาน

-ก่อตั้งกลุมไทยเพื่อการช่วยเหลือตนเอง ณ เมือง Würzburg( Selbsthilfegruppe für Thailändische Frauen)
-ได้รับรางวัลชนะเลิศ ปี 2541 ประกวดผลงานกลอน คิดถึงแม่ ได้รับการตัดสิน จาก คุณ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
-ได้รับเลือกเป็นคนไทยดีเด่นในเยอรมนี ประจำปี 2006





บทสัมภาษณ์

โดย แม่พลัดถิ่น

พี่กั้งมีแรงจูงใจอะไรหรือคะในการจัดตั้งกลุ่มไทยช่วยเหลือตนเอง

ขอความกรุณาพี่กั้งช่วยแนะนำตัวโดยคร่าวๆด้วยค่ะ

เกิดเมื่อวันที่ 14.05.1959 เป็นลูกสาวคนที่ 6 ที่คุณแม่รักมากกว่าใคร คุณพ่อเสียชีวิตเมื่ออยู่ ประถมปีที่ 4 จบ มศ. 5 รุ่นสุดท้าย ปี 1978 ที่ โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จังหวัดขอนแก่น และจบพยาบาลและผดุงครรภ์ที่วิทยาลัยพยาบาลอุดรธานี เมื่อปี 1981
ทำงานที่โรงพยาบาลภูธร ขอนแก่น-ชุมแพ เข้าร่วมอบรมงานพยาบาลด้านอายุรกรรมที่ รพ.รามาฯ และหลังจากนั่น ทำงานประจำที่ รพ.ชุมแพรวมระยะเวลา 12 ปี
สมัยนั้นช่วงพักร้อนจะไปรับงานพิเศษเฝ้าไข้ ที่ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท ซอย 49
งานอดิเรก
เล่นกีต้าร์โฟล์คซอง กับคณะแพทย์ และชอบพาเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทัศนาจรประจำ
เล่นเปตองจนได้ ครองแช้มป์หลายครั้ง
และ นอกจากนั้นยังชอบเล่นแบดมินตั้น
อ่านหนังสือ และปลูกว่านต่างๆ

แรงจูงใจ หรือมุมหักเห ในการมาตั้งกลุ่มไทยเพื่อการช่วยเหลือตนเอง
เนื่องจากได้ทำงานในเขตุภูธร จึงได้รับรู้ และเห็นสภาพชีวิตของคนหลายระดับ คบกับคนทุกประเภท และสัมผัสกับคนในครอบครัว คือพี่ชายคนโต จะดื่มสุรา และเล่นการพนัน บางครั้งมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาพัวพัน เป็นเหตุให้คุณแม่ต้องเสียเงินจำนวนมากมาย จึงกลายเป็นคนไม่ชอบผู้ชาย เคยถือปืนไล่ยิงพี่ชาย เพราะเขาขู่จะทำร้ายคุณแม่
ตั้งแต่นั้นมา คนในครอบครัวจะยกให้เป็นผู้นำตลอด การบริหารครอบครัวเป็นไปได้ด้วยดี

จุดหักเหในการตั้งกลุ่มฯ


เรื่องจากตนเองมีปัญหาเรื่องพาสปอร์ตมาเยอรมัน เอาชื่อและหลักฐานต่างๆของเพื่อนมาใช้ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูก เจ้าหน้าที่สถานทูติกลั่นแกล้ง (สมัย ที่ยังตั้งอยู่ ณ กรุง บอนน์) ต้องทนทุกข์ มีคดีติดตัว 10 ปี ได้ชี้แจงให้ทาง ตม.เยอรมันทราบ เขายอมรับและช่วยเหลือ แต่พอชี้แจงกับทางสถานทูติไทยกลับมีปัญหา นั่นคือ จุดหักเหท้าทายความรู้สึกที่ว่าเราบริสุทธิ์แต่คนของราชการไม่ช่วยแถมเหยียบย่ำ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มีความอุตสาหะ อยากชี้แจงให้ข้อมูลทีถูกต้องแก่ทุกคน และ อยากช่วยผู้ที่มีปัญหาจริงๆ และจะสู้เพื่อเรียกร้องความถูกต้อง จากที่เรามีสิทธิ หากผิดก็จะชี้แจงแถลงเหตุผล
สิ่งนี้คือ สิ่งผลักดัน และจูงใจทำให้ตั้งกลุ่มไทยช่วยเหลือตนเองขึ้น และตั้งกลุ่มมาได้ เกือบสิบปีแล้ว และมีผู้คนเข้ามาช่วยร่วมกัน มีคนเดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก และยังจัดงานแสดงเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีไทยปีละ 2-3 ครั้ง และส่งเสริมให้แม่บ้านไทยมีรายได้เสริม เช่นการ ทำอาหาร การทำงานฝีมือ หรือนำของเก่าที่ยังใหม่จัดทำตลาดนัด ในอาทิตย์แรกของทุกๆเดือน
ขณะนี้ ทางกลุ่มมีสมาชิก 180 คนค่ะ

มีอุปสรรคอะไรบ้างหรือไม่คะในการตั้งกลุ่ม และ บริหารกลุ่ม

ในช่วงแรกๆมีหลายคน คิดว่าจะเป็นไปได้อย่างไร ในการจัดตั้งกลุ่ม เพื่อรวมคน ต่างพ่อต่างแม่ต่างความคิด ร่วมงานกันนั้นคงเป็นไปไม่ได้ หรือ ไม่ง่ายแน่นอน แต่เราก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนให้เห็นว่าเป็นไปได้แล้วและดีด้วย
ในช่วงเริ่มต้น สอง-สามเดือนแรก มีผู้เข้าร่วมประชุม 5-7 คนเท่านั้น แต่ก็ไม่เคยย่อท้อ หรือเห็นว่าเป็นอุปสรรค กลับจัดให้มีการพบปะกันอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ ไม่เว้นหรือขาดการจัดประชุม และนี่คือจุดเด่นของการ การตั้งกลุ่ม และ ขจัดปัญหาที่หลายคนค่อนแคะต่างๆไปได้
ทราบว่าทางกลุ่มมีกิจกรรม ผ่อนคลายความเครียด นัดเจอกัน สร้างสรรค์สิ่งดีๆ
อาทิ สรรหาผู้มีความรู้ทางกฏหมายมาให้ความรู้แก่คนในกลุ่มเนือง ๆ และจัดให้ตั้งบู๊ทเปิด
ขายอาหาร สินค้าไทย กิจกรรมเหล่านี้ ได้เป็นที่ยอมรับแก่ชาวเยอรมันมากไหมคะ
แน่นอนค่ะ คนเยอรมันเขายอมรับ และนับถือ กลุ่มฯของเรามากทีเดียว ในการก่อตั้งกลุ่ม เมื่อเริ่มแรก ทางเราได้ไปขอความอนุเคราะห์ขอสถานที่ นัดพบปะให้กลุ่มฯ จากทางหน่วยงานเยอรมัน และมีการจัดงานแสดงทางด้านวัฒนธรรมไทย หากทางหน่วยงานเยอรมันขอความร่วมมือจากทางกลุ่มเรา ทางเราก็ให้ความร่วมมือช่วยเหลืออย่างเต็มที่เช่นกัน ในการเช่าสถานที่นัดพบ เราก็ได้เงินสนับสนุน ปีละ 300 ยูโรด้วยค่ะ


พี่กั้งอยากจะฝากแง่คิดอะไรให้แก่คนไทย ในเยอรมนี บ้างไหมคะ


อยากจะฝากในเรื่องของความมีเมตตา กรุณา เสียสละให้ส่วนรวม ความอดทนมีมานะ ใช้ปัญญาต่อสู้ปัญหาต่างๆ สิ่งเหล่านี้ จะทำให้เรามีความสุข และ ประสบผลสำเร็จในชีวิตได้ ถึงแม้ต้องใช้เวลานานในการรอคอย
อย่างไรก็ตาม หากเราประสงค์จะทำอะไร ก็ควรทำจากแรงกระตุ้น หรือแรงจูงใจของเราเอง เพราะเมื่อ เราทำไปแล้ว เราจะเกิดความรู้สึกที่ดี และจะมีความสุขไปด้วย
การช่วยสังคม นั้นเราจะต้องพร้อม ทั้งกาย- ใจ-เศรษฐกิจ และที่สำคัญคือคนในครอบครัวของเราด้วย และ โอกาส ค่ะ


คุณบาหยัน สมัย รับราชการพยาบาล ที่เมืองไทย

รับรางวัลคนไทยน้ำใจดีในรูปคนที่ 4 จากขวามือ

อบรมพลังจักวาล ปี 2006

สอนเด็ก+ผู้ใหญ่ภาษาไทย

เข้าอบรมสัมมนาล่ามไทย ปี2005


เป็นโฆษกแสดงเดินชุดไทยที่โรงละครแห่งชาติของจังหวัดเวืร์อซบวร์ก

จัดเดินเทิดพระเกียรติในหลวงปี2006


ออกตั้งค่ายครอบครัว Juli 2007

2 Kommentare:

Anonym hat gesagt…

a great project

Anonym hat gesagt…

พี่กั้งของเราเก่งจริงๆ นี่แหละเป็นคนดีจริงๆ
จ๋าค่ะ